โยโย่เอฟเฟกต์ กลายเป็นปัญหาหนักใจของสาวๆ หลายคนที่พยายาม ลดน้ำหนัก
เพราะลดแล้วแต่พอเผลอก็กลับมาอ้วนอีกไม่ผอมอย่างถาวร ซึ่งโยโย่เอฟเฟกต์
คือภาวะที่น้ำหนักตัวเด้งขึ้นๆ ลงๆ
และส่วนใหญ่มักจบลงด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนเริ่มลดหรือบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างต่อเนื่องแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย
ก็ยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักตัวเองได้ค่ะ
สาเหตุหลักของโยโย่เอฟเฟกต์ คือพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง เช่นการไม่ออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายมากเกินไป ยังไม่รวมถึงการใช้ยาลดความอ้วน โดยเฉพาะโปรแกรมลดน้ำหนักบางอย่าง ที่ใช้การอดอาหารหรือควบคุมอาหารจนขาดพลังงานเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ ร่างกายจึงขาดความสมดุลในการเผาผลาญและการเก็บพลังงาน ทำให้สูญเสียความสามารถในการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อกลับมารับประทานตามเดิมจึงกลับมาอ้วนตามเดิม หรืออ้วนกว่าเดิมเป็นวงจรไม่จบ! ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเลือกวิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้กลับมาอ้วนอีก โดยเรามีกฏเหล็กสำคัญสำหรับสาวๆ ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก มาฝากกันค่ะ เพื่อการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง สาวๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลกับปัญหาโยโยเอฟเฟกต์ค่ะ
1. เลือกกินอาหาร
การเลือกกินอาหารในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงให้สาวๆ เลือกกินแบบที่ตัวเองชอบนะคะ แต่เป็นการเลือกกินอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลอรี่อย่างเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายรับแคลอรี่เกินกว่าที่จำเป็น จะได้ไม่เปลี่ยนไขมันสะสมค่ะ
2. เลือกโปรแกรมลดน้ำหนัก
สาวๆ ควรวางตารางหรือโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องเจอกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ โดยตารางหรือโปรแกรมลดน้ำหนักที่ถูกต้องควรเน้นไปที่การควบคุมอาหารเป็นหลักและจัดตารางการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ อาทิตย์ค่ะ
3. เลือกกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
ถึงแม้ว่าสาวๆ จะต้องการ ลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ควรหยุดกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันค่ะ เพราะอาหารทั้ง 2 หมู่นี้ยังคงมีความสำคัญกับร่างกายอยู่ เพียงแต่สาวๆ ควรรับแต่น้อยเพื่อไม่ให้สะสมจนกลายเป็นไขมันในร่างกายค่ะ
4. ออกกำลังกายเพื่อเร่งการเผาผลาญ
สาวๆ ควรออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ร่างกายได้เบิร์นเร็วขึ้น แต่ไม่ควรหักโหมออกกำลังกายมากเกินไปค่ะ เพราะการออกกำลังกายที่ถูกต้องควรทำอย่างพอดีๆ ประมาณ 3 - 4 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้นก็พอค่ะ
5. พักการลดน้ำหนักเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายตึงเครียดเกินไป
ถึงแม้ว่าสาวๆ จะวางตารางหรือโปรแกรมออกกำลังกายชัดเจนและสามารถทำได้ตามตารางอย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม แต่ก็ควรผ่อนคลายให้ตัวเองบ้างค่ะ เพราะหากทำตามตารางไปในเวลานานๆ ร่างกายจะเกิดอาการตึงเครียดขึ้นมาได้
6. ระวังอย่าหักโหมลดน้ำหนักมากเกินไป ควรควบคุมให้แต่ละครั้งน้ำหนักลดลงไม่เกิน 10% ของน้ำหนักตัว
สาวๆ ควรควบคุมไม่ให้น้ำหนักลดลงเร็วเกินไปค่ะ เพราะการบังคับให้ร่างกาย ลดน้ำหนัก ได้เร็วๆ นั้นไม่มีข้อดีอยู่เลย อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะเกิดอาการผิวหนังหย่อนคล้อยจากน้ำหนักที่ลดลงเร็วเกินไปแล้ว ยังอาจเกิดผลเสียกับระบบภายในร่างกายซึ่งส่งผลในระยะยาว เช่น กระดูกบางลง มวลกล้ามเนื้อลดลงรวมถึงยังเสี่ยงกับการเป็นโรคไตและโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ
ที่มา:
http://women.trueid.net/detail/2raOk9PvP4o
สาเหตุหลักของโยโย่เอฟเฟกต์ คือพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง เช่นการไม่ออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายมากเกินไป ยังไม่รวมถึงการใช้ยาลดความอ้วน โดยเฉพาะโปรแกรมลดน้ำหนักบางอย่าง ที่ใช้การอดอาหารหรือควบคุมอาหารจนขาดพลังงานเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ ร่างกายจึงขาดความสมดุลในการเผาผลาญและการเก็บพลังงาน ทำให้สูญเสียความสามารถในการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อกลับมารับประทานตามเดิมจึงกลับมาอ้วนตามเดิม หรืออ้วนกว่าเดิมเป็นวงจรไม่จบ! ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเลือกวิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้กลับมาอ้วนอีก โดยเรามีกฏเหล็กสำคัญสำหรับสาวๆ ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก มาฝากกันค่ะ เพื่อการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง สาวๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลกับปัญหาโยโยเอฟเฟกต์ค่ะ
1. เลือกกินอาหาร
การเลือกกินอาหารในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงให้สาวๆ เลือกกินแบบที่ตัวเองชอบนะคะ แต่เป็นการเลือกกินอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลอรี่อย่างเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายรับแคลอรี่เกินกว่าที่จำเป็น จะได้ไม่เปลี่ยนไขมันสะสมค่ะ
2. เลือกโปรแกรมลดน้ำหนัก
สาวๆ ควรวางตารางหรือโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องเจอกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ โดยตารางหรือโปรแกรมลดน้ำหนักที่ถูกต้องควรเน้นไปที่การควบคุมอาหารเป็นหลักและจัดตารางการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ อาทิตย์ค่ะ
3. เลือกกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
ถึงแม้ว่าสาวๆ จะต้องการ ลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ควรหยุดกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันค่ะ เพราะอาหารทั้ง 2 หมู่นี้ยังคงมีความสำคัญกับร่างกายอยู่ เพียงแต่สาวๆ ควรรับแต่น้อยเพื่อไม่ให้สะสมจนกลายเป็นไขมันในร่างกายค่ะ
4. ออกกำลังกายเพื่อเร่งการเผาผลาญ
สาวๆ ควรออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ร่างกายได้เบิร์นเร็วขึ้น แต่ไม่ควรหักโหมออกกำลังกายมากเกินไปค่ะ เพราะการออกกำลังกายที่ถูกต้องควรทำอย่างพอดีๆ ประมาณ 3 - 4 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้นก็พอค่ะ
5. พักการลดน้ำหนักเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายตึงเครียดเกินไป
ถึงแม้ว่าสาวๆ จะวางตารางหรือโปรแกรมออกกำลังกายชัดเจนและสามารถทำได้ตามตารางอย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม แต่ก็ควรผ่อนคลายให้ตัวเองบ้างค่ะ เพราะหากทำตามตารางไปในเวลานานๆ ร่างกายจะเกิดอาการตึงเครียดขึ้นมาได้
6. ระวังอย่าหักโหมลดน้ำหนักมากเกินไป ควรควบคุมให้แต่ละครั้งน้ำหนักลดลงไม่เกิน 10% ของน้ำหนักตัว
สาวๆ ควรควบคุมไม่ให้น้ำหนักลดลงเร็วเกินไปค่ะ เพราะการบังคับให้ร่างกาย ลดน้ำหนัก ได้เร็วๆ นั้นไม่มีข้อดีอยู่เลย อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะเกิดอาการผิวหนังหย่อนคล้อยจากน้ำหนักที่ลดลงเร็วเกินไปแล้ว ยังอาจเกิดผลเสียกับระบบภายในร่างกายซึ่งส่งผลในระยะยาว เช่น กระดูกบางลง มวลกล้ามเนื้อลดลงรวมถึงยังเสี่ยงกับการเป็นโรคไตและโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ
ที่มา:
http://women.trueid.net/detail/2raOk9PvP4o
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น